ทรานสดิวเซอร์สำหรับกระแสไฟ AC รุ่น SINEAX I552

ทรานสดิวเซอร์สำหรับกระแสไฟ AC รุ่น SINEAX I552
Brand : CAMILLE BAUER
Catalog : Google Drive
Model : SINEAX I552
Size : 70x70x114mm (WxHxD)

• วิธีการวัด: กระบวนการลอการิธมิก (Logarithmic process)
• อินพุตการวัด: กระแสสลับ, ไซนูซอยดอลหรือผิดเพี้ยน, การวัดค่า RMS จริง
• ขอบเขตการวัด: 1/5 A หรือ 1.2/6 A สามารถเลือกได้ที่ขั้วต่อ
• เอาท์พุตการวัด: ยูนิโปลาและไลฟ์-ซีโร่ 0…1.0 ถึง 0…20 mA หรือ ไลฟ์-ซีโร่ 0.2…1 ถึง 4…20 mA หรือ 0…1 ถึง 0…10 V หรือ ไลฟ์-ซีโร่ 0.2…1 ถึง 2…10 V
• แหล่งจ่ายไฟ: แหล่งจ่ายไฟ DC, AC ที่มีช่วงความทนทานกว้าง
• ตัวเรือนสำหรับการติดตั้งบนรางประเภทท็อปแฮต
• ใบรับรอง: CSA
• ความแม่นยำ (ตามมาตรฐาน EN 60688) คลาส 0.5
• IP 40, ตัวเรือน (สายทดสอบ, EN 60 529) IP 20, ขั้วต่อ (นิ้วทดสอบ, EN 60 529)
• อุณหภูมิในการทำงาน: –10 ถึง +55 °C
• รายงานการทดสอบที่เลือกได้

Facebook
Email
LinkedIn

ทรานสดิวเซอร์สำหรับกระแสไฟ AC รุ่น SINEAX I552
Brand : CAMILLE BAUER
Catalog : Google Drive
Model : SINEAX I552
Size : 70x70x114mm (WxHxD)

• วิธีการวัด: กระบวนการลอการิธมิก (Logarithmic process)
• อินพุตการวัด: กระแสสลับ, ไซนูซอยดอลหรือผิดเพี้ยน, การวัดค่า RMS จริง
• ขอบเขตการวัด: 1/5 A หรือ 1.2/6 A สามารถเลือกได้ที่ขั้วต่อ
• เอาท์พุตการวัด: ยูนิโปลาและไลฟ์-ซีโร่ 0…1.0 ถึง 0…20 mA หรือ ไลฟ์-ซีโร่ 0.2…1 ถึง 4…20 mA หรือ 0…1 ถึง 0…10 V หรือ ไลฟ์-ซีโร่ 0.2…1 ถึง 2…10 V
• แหล่งจ่ายไฟ: แหล่งจ่ายไฟ DC, AC ที่มีช่วงความทนทานกว้าง
• ตัวเรือนสำหรับการติดตั้งบนรางประเภทท็อปแฮต
• ใบรับรอง: CSA
• ความแม่นยำ (ตามมาตรฐาน EN 60688) คลาส 0.5
• IP 40, ตัวเรือน (สายทดสอบ, EN 60 529) IP 20, ขั้วต่อ (นิ้วทดสอบ, EN 60 529)
• อุณหภูมิในการทำงาน: –10 ถึง +55 °C
• รายงานการทดสอบที่เลือกได้

DESCRIPTION

• Measurement method: Logarithmic process
• Measurement input: alternating current, sinusoidal or distorted, true RMS value measurement
• Measuring range: 1/5 A or 1.2/6 A selectable at terminals
• Measurement output: unipolar and live-zero 0…1.0 to 0…20 mA resp. live-zero 0.2…1 to 4…20 mA or 0…1 to 0…10 V resp. live-zero 0.2…1 to 2…10 V
• Power supply: wide DC, AC power pack tolerance
• Housing for top-hat rail mounting
• Certification: CSA
• Accuracy (acc. to EN 60688) class 0.5
• IP 40, housing (test wire, EN 60 529) IP 20, terminals (test finger, EN 60 529)
• Operating temperature: –10 to + 55 °C
• Optional test report

Multifunction Transducer คืออะไร ใช้งานอย่างไร

Multifunction Transducer (ตัวแปลงสัญญาณหลายฟังก์ชัน) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดและแปลงค่าพารามิเตอร์หลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า เช่น กระแสไฟฟ้า (Current), แรงดันไฟฟ้า (Voltage), พลังงาน (Power), ความถี่ (Frequency), ค่าพลังงานสะสม (Energy), และพลังงานไฟรีแอคทีฟ (Reactive Power) แล้วแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นสัญญาณที่สามารถอ่านหรือบันทึกได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ การใช้งานเช่น ระบบไฟฟ้า, การควบคุม, หรือระบบการเฝ้าระวังพลังงาน

ประเภทของ Multifunction Transducer : Multifunction Transducer มีหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะการทำงานหลักๆ ได้ดังนี้:

  1. Energy Meter Transducers (ตัวแปลงสัญญาณการวัดพลังงาน):
    • ใช้ในการวัดการใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น การวัดพลังงานไฟฟ้า (Active Power), พลังงานไฟรีแอคทีฟ (Reactive Power) และพลังงานรวม (Apparent Power) ในระบบไฟฟ้า
    • อาจมีฟังก์ชันเพิ่มเติมในการตรวจสอบคุณภาพพลังงาน เช่น Power Factor, Total Harmonic Distortion (THD) เป็นต้น
  2. Voltage/Current Transducers (ตัวแปลงสัญญาณแรงดัน/กระแส):
    • วัดค่าแรงดันไฟฟ้า (Voltage) และกระแสไฟฟ้า (Current) และแปลงค่าดังกล่าวให้อยู่ในสัญญาณที่สามารถนำไปใช้งานได้ เช่น สัญญาณอนาล็อก (4-20mA, 0-10V) หรือดิจิตอล (Modbus, RS485)
  3. Frequency and Power Factor Transducers (ตัวแปลงสัญญาณความถี่และค่า Power Factor):
    • ใช้วัดและแปลงค่าความถี่ของกระแสไฟฟ้าในระบบ (Hz) และคำนวณค่า Power Factor (PF) ซึ่งมีความสำคัญในการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
  4. Grid Quality Monitoring Transducers (ตัวแปลงสัญญาณการตรวจสอบคุณภาพกริด):
    • ใช้สำหรับตรวจสอบคุณภาพของไฟฟ้าที่จ่ายในระบบ เช่น การวัดพลังงานที่สูญเสีย, ความไม่สมดุลของโหลด, หรือสัญญาณรบกวนในกระแสไฟฟ้า

หลักการทำงานของ Multifunction Transducer:

  1. การวัดค่า: ตัวแปลงสัญญาณจะทำการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น กระแส (A), แรงดัน (V), ความถี่ (Hz), พลังงาน (kWh) และพลังงานไฟรีแอคทีฟ (kVARh) ในระบบไฟฟ้า โดยใช้เซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า
  2. การแปลงสัญญาณ: หลังจากทำการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ แล้ว ตัวแปลงสัญญาณจะทำการแปลงค่าที่ได้จากการวัดให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น แปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลหรืออนาล็อกที่สามารถส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องควบคุม (PLC), ระบบ SCADA หรือระบบการบันทึกข้อมูล
  3. การสื่อสาร: ตัวแปลงสัญญาณบางรุ่นสามารถส่งข้อมูลที่ได้ไปยังระบบควบคุมระยะไกลผ่านโปรโตคอลต่างๆ เช่น Modbus, RS485, Ethernet, หรือ GPRS เพื่อให้สามารถตรวจสอบและควบคุมระบบได้จากระยะไกล
  4. การบันทึกข้อมูล: ตัวแปลงสัญญาณหลายฟังก์ชันมักมีฟังก์ชันการบันทึกข้อมูลย้อนหลัง เช่น บันทึกข้อมูลการใช้พลังงาน, พลังงานสะสม, หรือคุณภาพของกริด เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการทำงานของระบบไฟฟ้าในระยะยาว

อุปกรณ์ชั้นนำ ระดับโลก​​

“ความแม่นยำที่วัดได้”
“Accuracy Therapy,, Quality You Can Trust”

         ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี ร่วมกับบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เรามีพื้นฐานความรู้ที่หลากหลาย  และ แม่นยำ ทีไ่ด้รับการไว้วางใจระดับนานาชาติ

ติดต่อสอบถาม

Amptron Thailand ยินดีให้บริการ

ที่อยู่ : 7-9-11-13 เพชรเกษม 77 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 10160
โทรศัพท์ : 086 341 2503
Email : sales03@amptron.th.com
Line : @amptron