ทรานสดิวเซอร์สำหรับวัดความต่างของความถี่ รุ่น SINEAX F535
Brand : CAMILLE BAUER
Catalog : Google Drive
Model : SINEAX F535
Size : 70x70x114mm (WxHxD)

• อินพุตการวัดสำหรับแรงดันไฟฟ้าที่เป็นไซนูซอยดอล, คลื่นสี่เหลี่ยมหรือคลื่นที่ผิดเพี้ยน โดยมีคลื่นพื้นฐานที่โดดเด่น
• แรงดันอินพุต: 10 ถึง 690 โวลต์
• แหล่งจ่ายไฟเสริม: 85 ถึง 230 V AC/DC
• วิธีการวัด: การวัดระยะเวลาของการสั่นสะเทือนในแบบดิจิตอล
• แหล่งจ่ายไฟ: แหล่งจ่ายไฟ AC-DC แบบรวมที่มีช่วงความทนทานกว้างสำหรับการใช้งานทั่วไป
• ตัวเรือนสำหรับการติดตั้งบนรางประเภทท็อปแฮต
• ใบรับรอง: CSA
• ความแม่นยำ (ตามมาตรฐาน EN 60688) คลาส 0.2
• IP 40, ตัวเรือน (สายทดสอบ, EN 60 529) IP 20, ขั้วต่อ (นิ้วทดสอบ, EN 60 529)
• อุณหภูมิในการทำงาน: –10 ถึง +55 °C
• รายงานการทดสอบที่เลือกได้

DESCRIPTION

• Measurement inputs for sinusoidal, square-wave or distorted nominal input voltages with dominant fundamental wave
• Input voltage: 10 to 690 V
• Auxiliary power: 85 to 230 V AC/DC
• Input frequency response time periods: 4 Measuring range limits: df ± 1% fS to ± 80% fS, fS and fG= 10 Hz to 1.5 kHz fS = bus bar frequency, fG = generator frequency
• Measurement output available with unipolar, bipolar or live-zero output quantities
• Measuring method: digital period of oscillation measurement
• Power supply: integrated AC-DC power pack with large tolerance range for universal use
• Housing for top-hat rail mounting
• Certifications: CSA
• Accuracy (acc. to EN 60688) class 0.2
• IP 40, housing (test wire, EN 60 529) IP 20, terminals (test finger, EN 60 529)
• Operating temperature: –10 to + 55 °C
• Optional test report

Multifunction Transducer คืออะไร ใช้งานอย่างไร

ประเภทของ Multifunction Transducer : Multifunction Transducer มีหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะการทำงานหลักๆ ได้ดังนี้:

1. Energy Meter Transducers (ตัวแปลงสัญญาณการวัดพลังงาน):
   • ใช้ในการวัดการใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น การวัดพลังงานไฟฟ้า (Active Power), พลังงานไฟรีแอคทีฟ (Reactive Power) และพลังงานรวม (Apparent Power) ในระบบไฟฟ้า
   • อาจมีฟังก์ชันเพิ่มเติมในการตรวจสอบคุณภาพพลังงาน เช่น Power Factor, Total Harmonic Distortion (THD) เป็นต้น
2. Voltage/Current Transducers (ตัวแปลงสัญญาณแรงดัน/กระแส):
   • วัดค่าแรงดันไฟฟ้า (Voltage) และกระแสไฟฟ้า (Current) และแปลงค่าดังกล่าวให้อยู่ในสัญญาณที่สามารถนำไปใช้งานได้ เช่น สัญญาณอนาล็อก (4-20mA, 0-10V) หรือดิจิตอล (Modbus, RS485)
3. Frequency and Power Factor Transducers (ตัวแปลงสัญญาณความถี่และค่า Power Factor):
   • ใช้วัดและแปลงค่าความถี่ของกระแสไฟฟ้าในระบบ (Hz) และคำนวณค่า Power Factor (PF) ซึ่งมีความสำคัญในการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
4. Grid Quality Monitoring Transducers (ตัวแปลงสัญญาณการตรวจสอบคุณภาพกริด):
   • ใช้สำหรับตรวจสอบคุณภาพของไฟฟ้าที่จ่ายในระบบ เช่น การวัดพลังงานที่สูญเสีย, ความไม่สมดุลของโหลด, หรือสัญญาณรบกวนในกระแสไฟฟ้า

หลักการทำงานของ Multifunction Transducer:

1. การวัดค่า: ตัวแปลงสัญญาณจะทำการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น กระแส (A), แรงดัน (V), ความถี่ (Hz), พลังงาน (kWh) และพลังงานไฟรีแอคทีฟ (kVARh) ในระบบไฟฟ้า โดยใช้เซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า
2. การแปลงสัญญาณ: หลังจากทำการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ แล้ว ตัวแปลงสัญญาณจะทำการแปลงค่าที่ได้จากการวัดให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น แปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลหรืออนาล็อกที่สามารถส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องควบคุม (PLC), ระบบ SCADA หรือระบบการบันทึกข้อมูล
3. การสื่อสาร: ตัวแปลงสัญญาณบางรุ่นสามารถส่งข้อมูลที่ได้ไปยังระบบควบคุมระยะไกลผ่านโปรโตคอลต่างๆ เช่น Modbus, RS485, Ethernet, หรือ GPRS เพื่อให้สามารถตรวจสอบและควบคุมระบบได้จากระยะไกล
4. การบันทึกข้อมูล: ตัวแปลงสัญญาณหลายฟังก์ชันมักมีฟังก์ชันการบันทึกข้อมูลย้อนหลัง เช่น บันทึกข้อมูลการใช้พลังงาน, พลังงานสะสม, หรือคุณภาพของกริด เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการทำงานของระบบไฟฟ้าในระยะยาว